ผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินควรดูแลตนเอง ดังนี้ ผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยนอนหลับพักผ่อนวันละ 6 – 8 ชั่วโมง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายประจำหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่เครียด จะสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ในปัจจุบันคาดว่าร้อยละ 2 ของประชากรไทยเป็นโรคสะเก็ดเงิน โดยสามารถพบได้ทั้งเพศหญิงและเพศชายในจำนวนเท่าๆ กัน ด้วยอาการของโรคสะเก็ดเงินที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เช่น ผื่นบริเวณหนังศีรษะลอกแห้ง ผิวหน้า หรือบริเวณนอกร่มผ้า จึงค่อนข้างส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยในด้านการทำให้ผู้ป่วยขาดความมั่นใจในการเข้าพบปะผู้คนหรือการเข้าสังคม หรือบางกรณีผู้ป่วยมักมีอาการปวดข้อ รูปลักษณะข้อเกิดการผิดรูปหรือเสียรูปถาวร จนส่งผลให้ไม่สามารถทำงาน หรือดำเนินชีวิตประจำวันได้เท่าคนปกติ
โรคสะเก็ดเงินจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีอาการเป็นช่วงๆ แต่สามารถควบคุมอาการได้ ดังนั้นการวางแผนเพื่อการรักษาในระยะยาวและต่อเนื่องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงนับเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยแพทย์ฯ จะต้องวินิจฉัยจากชนิดของอาการของผู้ป่วย ความรุนแรง โดยผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินเกินร้อยละ 5 ของพื้นที่ผิวจะถือได้ว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จำเป็นต้องได้รับยาที่นอกเหนือจากยาทา ได้แก่ การฉายแสงหรือการอาบแสงแดดเทียมและการรับประทานยาหรือฉีดยาสำหรับโรคดังกล่าว แต่หากผู้ป่วยมีอาการไม่ถึงร้อยละ 5 ของพื้นที่ผิว โรคมักจะสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้เพียงยาทา
สำหรับผู้ป่วย โรคสะเก็ดเงิน การปฏิบัติตนเพื่อควบคุมไม่ให้อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้รวดเร็วมากขึ้น โดยเคล็ดลับ 4 ประการในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมีดังนี้
1. เข้าใจโรคสะเก็ดเงิน ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าใจเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงินอย่างชัดเจน เพื่อสามารถดูแลและรักษาตนเองได้อย่างเหมาะสมต่อไป
2. ดูแลร่างกายและจิตใจอย่างเคร่งครัด ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งทางร่ายกายและจิตใจ
3. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ได้แก่ การแกะเกา การปล่อยให้ผิวหนังแห้งขุย การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา
4. สังเกตและป้องกันตนเองจากภาวะโรคแทรกซ้อน เช่น หากว่าเกิดอาการปวดบริเวณข้อใด ข้อหนึ่งในร่างกายจะต้องรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยและรักษาจากโรคข้อเสื่อมอักเสบ ผู้ป่วยบางรายที่ปล่อยให้ตนเองอ้วนมากเกินไปก็อาจเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนไข้ที่มีน้ำหนักปกติ
เนื่องจากโรคสะเก็ดเงิน ถือเป็นโรคหนึ่งที่ส่งผลกระทบในด้านการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างเห็นได้ชัดและคนทั่วไป อาจยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้อย่างชัดเจน จนมองว่าเป็นโรคติดต่อและเกิดจากความสกปรก ซึ่งล้วนแต่สร้างความกังวลใจให้แก่ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินเพิ่มมากขึ้น สถาบันโรคผิวหนังจึงร่วมกับสมาคมแพทย์ผิวหนัง เพื่อเริ่มดำเนินการทำแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพโรคสะเก็ดเงินระดับประเทศขึ้น โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติโรคสะเก็ดเงินทั่วประเทศ รวมไปถึงแนวทางในการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน และแนวทางในการดูแลคนไข้โรคสะเก็ดเงินอย่างถูกวิธีซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินสามารถเข้าถึงยาและการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมจากคนในสังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน